สำหรับการใช้ยานพาหนะโดยเฉพาะรถยนต์มีข้อปฏิบัติที่มีความสำคัญ ได้แก่ “คาดเข็มขัดนิรภัย” สำหรับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยดึงรั้งไม่ให้ตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าเข้าไปกระแทกกับคอนโซลหน้า หรือ กระเด็นออกจากตัวรถเนื่องจากการเฉี่ยวชนด้านหน้า เพราะฉะนั้นการรัดเข็มขัดนิรภัยจึงถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อผู้มีการใช้ยานพาหนะเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งนี้เข้มขัดนิรภัยในรถยนต์รุ่นปัจจุบันถูกกำหนดให้มีการติดตั้งมาในทุกเบาะนั่งไม่เพียงแค่เฉพาะเบาะนั่งด้านหน้า อีกทั้งในรถรุ่นใหม่บางรุ่นยังมีการติดตั้งจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ Isofix เพื่อยึดเกี่ยวกับเบาะนั่งสำหรับเด็ก Car Seat เข้ามาให้อีกด้วยถือเป็นฟังก์ชั่นความความปลอดภัยที่ผู้ขับขี่ควรเลือกใช้งานเมื่อต้องเดินทางไปพื้นที่ต่างๆโดยใช้รถยนต์และมีเด็กอ่อนไปด้วย อย่างไรก็ตามเข็มขัดนิรภัยมีความสำคัญอย่างไร เหลักการทำงานของเข็มขัดนิรภัย และเข็มขัดนิรภัยมีกี่รูปแบบ Autofast9.com พร้อมให้ท่านได้รู้จักกับเข็มขัดนิรภัยมากยิ่งขึ้น
เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ คืออะไร
เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ถือเป็นส่วนประกอบหลักในห้องโดยสารรถยนต์อีกหนึ่งชิ้นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากและถูกกฏหมายกำหนดให้มีการติดตั้งเข้ามาให้ในทุกที่นั่งทั้งรถยนต์โดยสาร 2 ที่นั่ง , 7 ที่นั่ง และรถตู้ก็ต้องมีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเข้ามาให้ในทุกที่นั่ง กอปรกับกฏหมายการจราจรทางบกก็มีการระบุเอาไว้ว่าผู้ที่ใช้งานยานพาหนะรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ หรือ ผู้โดยสารทั้งในตำแหน่งด้านหน้า และด้านหลังจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยมิฉะนั้นจะผิดกฏหมายจราจรนั่นเอง อย่างไรก็ตามเข็มขัดนิรภัยที่เราพบเห็นกันอยู่เป็นประจำนั้นก็มีส่วนประกอบที่แตกต่างกันและมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันอีกด้วยสามารถจำแนกได้ 7 รูปแบบดังนี้
- เข็มขัดนิรภัยแบบยึด 3 จุด เข็มขัดนิรภัยแบบยึด 3 จุด นับเป็นเข็มขัดนิรภัยรถยนต์รูปแบบใหม่ล่าสุดที่ได้รับการติดตั้งเข้ามาในรถยนต์ยุคใหม่ ภายใต้การดีไซน์ติดตั้งจุดยึดเข็มขัดนิรภัยที่บริเวณด้านบนของเบาะนั่งพาดผ่านไหล่ ช่วงอก และสะเอวที่มีการติดตั้งจุดยึดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ทำให้เข็มขัดนิรภัยแบบยึด 3 จุด สามารถที่จะปกป้องผู้โดยสารและยึด-เหนี่ยวรั้งร่างกายของผู้โดยสารด้วยเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ได้อย่างมั่นคงมากกว่าเข็มขัดนิรภัยในรูปแบบอื่นนั่นเอง
- เข็มขัดนิรภัยแบบยึดติดกับเบาะ สำหรับเข้มขัดนิรภัยรถยนต์ในรูปแบบนี้มีความคล้ายคลึงกับเบาะนั่งสำหรับเด็ก หรือ Car Seat นั่นเอง โดยเข็มขัดนิรภัยจะถูกคาดทับบริเวณไหล่ของผู้โดยสารทั้ง 2 ด้านและบริเวณสะเอวซึ่งสามารถช่วยผ่อนแรงและดึงรั้งร่างของผู้โดยสารเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้การใช้งานเข็มขัดนิรภัยแบบยึดติดกับเบาะในผู้ขับขี่บางรายอาจมีความรู้สึกอึดอัดอยู่บ้างเนื่องจากการปรับเปลี่ยนอิริยาบถในท่าทางต่างๆทำได้ยากเพราะเข็มขัดนิรภัยมีจุดยึดคาดทับไหล่ทั้ง 2 ข้างนั่นเอง
- เข็มขัดนิรภัยแบบพาดไหล่ เข็มขัดนิรภัยแบบพาดไหล่ถือเป็นอีกหนึ่งในรูปแบบของเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ที่มีการออกแบบจุดยึดมาให้จำนวน 2 จุด โดยมีลักษณะการดึงเข็มขัดนิรภัยพาดผ่านไหล่และยึดติดกับจุดยึดบริเวณสะโพก อย่างไรก็ตามเข็มขัดนิรภัยในรูปแบบนี้ไม่ได้รับความนิยมมากนักเนื่องจากเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือ รถเฉี่ยวชน ร่างของผู้โดยสารอาจมีการเลื่อนลงมาด้านล่างเพราะแรงกระแทก เนื่องจากไม่มีเข็มขัดนิรภัยที่คาดทับบริเวณสะเอวสำหรับดึงรั้งสะเอวของผู้โดยสารเอาไว้นั่นเอง
- เข็มขัดนิรภัยแบบพาดตัก สำหรับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ในรูปแบบนี้มีจุดยึดมาให้จำนวน 2 จุด บริเวณเบาะนั่งซ้าย-ขวา โดยใช้วิธีการดึงรั้งเข็มขัดนิรภัยพาดผ่านตักมาเสียบเข้ากับจุดยึดเข็มขัดนิรภัยในอีกด้านหนึ่งผู้ยึดรั้งสะเอวของผู้โดยสารให้อยู่กับที่ อย่างไรก็ตามเข็มขัดนิรภัยในรูปแบบนี้ก็ไม่ได้รับความรู้นิยมมากนัก เนื่องจากมีหลักการทำงานยึดส่วนสะเอวของผู้โดยสารเอาไว้เป็นหลักแต่บริเวณไหล่ และ หน้าอกยังคงโน้มไปด้านหน้าเนื่องจากแรงเหวี่ยงจนส่งผลให้ไปกระทบเข้ากับกระจกหน้า หรือ คอนโซลหน้าได้นั่นเอง
- เข็มขัดนิรภัยแบบอัตโนมัติ สำหรับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์แบบอัตโนมัติถือเป็นเข็มขัดนิรภัยอีกรูปแบบหนึ่งที่อาจไม่ได้รับความนิยมมากนักในประเทศไทยแต่สำหรับผู้ใช้งานรถทั่วโลกแล้วเข็มขัดนิรภัยในรูปแบบนี้ถือเป็นเข็มขัดนิรภัยที่ได้รับความสนใจอีกรูปแบบหนึ่ง สำหรับเข็มขัดนิรภัยแบบอัตโนมัติมีการทำงานที่แยกออกจากกัน 2 ส่วน ได้แก่ เข็มขัดนิรภัยแบบพาดไหล่ที่จุดยึดถูกติดตั้งเอาไว้กับเสาทางด้านขวา หรือ ซ้าย และคาดผ่านไหล่มายึดติดกับจุดยึดบริเวณคอนโซลกลาง ส่วนเข็มขัดบริเวณสะเอวผู้โดยสารจะต้องนำมาคาดทับพาดผ่านตัก เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์จุดยึดเข็มขัดนิรภัยที่พาดผ่านไหล่จะเคลื่อนตัวอย่างอัตโนมัติมาอยู่ที่ตำแหน่งเสากลางพาดทับไหล่ของผู้โดยสารอย่างอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยแบบยึด 5 จุด สำหรับเข็มขัดนิรภัยในรูปแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับติดตั้งในเบาะนั่งสำหรับเด็ก หรือ Car Seat ที่มาพร้อมจุดยึดมีมาให้มากถึง 5 จุด ยังได้รับการติดตั้งเข้าไปรถกลุ่มยนตรกรรมสมรรถนะสูงรุ่นต่างๆซึ่งสามารถที่จะช่วยดึงรั้งร่างของผู้โดยสารให้อยู่กับเบาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามการคาดเข็มขัดนิรภัยแบบยึด 5 จุด มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวร่างกายที่ไม่สามารถทำได้อย่างอิสระมากนักจึงไม่ได้รับความนิยมนำมาติดตั้งในรถยนต์ที่มีการใช้งานขับขี่ตามปกตินั่นเอง
- เข็มขัดนิรภัยแบบยึด 6 จุด สำหรับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ในรูปแบบนี้ได้รับการติดตั้งเข้ามาในรถยนต์สมรรถนะสูง หรือ รถแข่งในสนามแข่งต่างๆทั่วโลกมักจะเลือกติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด สำหรับจุดยึดเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด มีความคล้ายคลึงกับจุดยึดเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด แต่มีข้อแตกต่างอยู่ที่จุดยึดที่บริเวณขาทั้ง 2 ด้าน ที่มีการติดตั้งเพิ่มเข้ามาให้ส่งผลให้สามารถยึดรั้งร่างของผู้โดยสารในระหว่างที่รถมีการเฉี่ยวชน หรือ เกิดอุบัติเหตุเอาไว้ได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีข้อเสียอยู่ที่การเคลื่อนไหวร่างกายที่ถูกยึดโยงเอาไว้ในท่านั่งขับอยู่ตลอดเวลานั่นเองจึงเหมาะสำหรับใช้ในรถแข่งเท่านั้น
เข็มขัดนิรภัยรถยนต์สำคัญอย่างไร
ทั้งนี้การคาดเข็มขัดนิรภัย หรือ รัดเข็มขัดนิรภัย ถือเป็นส่วนสำคัญที่ผู้ขับขี่ หรือ ผู้โดยสารควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเพราะการคาดเข็มขัดนิรภัยจะช่วยชะลอแรงกระแทกระหว่างผู้โดยสารกับวัสดุด้านหน้าทั้งในส่วนของเบาะนั่ง คอนโซล และอุปกรณ์ต่างๆซึ่งอยู่ด้านหน้าของตัวผู้โดยสารไม่ให้เข้ามากระแทกกับตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเพราะถูกเข็มขัดนิรภัยเหนี่ยวรั้งไว้อยู่นั่นเอง อีกทั้งในกรณีที่มีการเฉี่ยวชนและเกิดแรงกระแทกด้านหน้าจนทำให้กระจกแตกร่างของผู้ขับขี่ก็ไม่หลุดออกไปจากภายนอกตัวรถเพราะแรงกระแทกดังกล่าวเนื่องจากมีเข็มขัดนิรภัยคอยผ่อนแรงและฉุดรั้งร่างของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเอานั่นเอง
กอปรกับในขณะที่มีการขับขี่รถยนต์ควรที่จะปรับตำแหน่งของเข็มขัดนิรภัยให้อยู่ในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่สามารถยึดจับ หรือ ผ่อนคลายร่างกายในอิริยาบถต่างๆได้อย่างสะดวกเพื่อลดอาการเมื่อยล้าระหว่างเดินทางและในขณะทำการขับขี่ควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เนื่องจากเข็มขัดนิรภัยในรถบางรุ่นมีการออกแบบมาให้เชื่อมต่ออยู่กับถุงลมนิรภัยและมีการทำงานอย่างสอดคล้องกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือ ได้รับแรงกระแทกจากทั้งด้านหน้าและด้านข้างถุงลมนิรภัยจะได้รับการทำงานอย่างอัตโนมัติ แต่หากผู้ขับขี่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยระบบถุงลมนิรภัยที่ได้รับการติดตั้งมาก็จะไม่ทำงานนั่นเอง
ติดตั้ง Car Seat เมื่อต้องนำเด็กเล็กเดินทางไปด้วย
เมื่อผู้ขับขี่ต้องการที่จะนำเด็กเล็กที่มีอายุระหว่าง 2–10 ปี เดินทางโดยสารรถไปด้วยควรติดตั้ง Car Seat หรือ เบาะนั่งสำหรับเด็กเพื่อช่วยฝห้เด็กมีระบบความปลอดภัยที่สามารภป้องป้องตนเองเองได้เมื่อรถมีการเฉี่ยวชนเกิดขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคาร์ ซีท มีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลายทั้งราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งนี้เบาะนั่งสำหรับเด็กได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความปลอดภัยกับเด็กโดยเฉพาะมีความครอบคลุมตั้งแต่เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไปจนถึง 10 ปีก็สามารถที่จะใช้เบาะนั่งสำหรับเด็กได้เช่นกัน
ทั้งนี้การติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เด็กได้รับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้วเก้าอี้นิรภัยจะมีการติดตั้งหัวล็อคนิรภัยมาให้ด้วยเพื่อให้ผู้ขับขี่ทำการล็อคเข้ากับหัวล็อค Isofix หรือ จุดเย็ดเบาะนั่งสำหรับเด็กที่มีการติดตั้งเอาไว้ในรถยนต์รุ่นใหม่ที่เบาะนั่งด้านหลัง อย่างไรก็ตามในขณะที่เดินทางผู้ขับขี่ควรสังเกตพฤติกรรมของเด็กอยู่ตลอดเวลาว่ามีความอึดอัดหรือไม่ในการใช้งานเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กและในกรณีที่คาร์ ซีท มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยมาให้ด้วยผู้ขับขี่ก็ควรปรับตำแหน่งของเข็มขัดนิรภัยไม่ให้รัดตัวเด็กจนเกินไป
สำหรับผู้ที่มีความสนใจเคล็ดลับในการใช้รถ เข็มขัดนิรภัยรถยนต์มีความสำคัญอย่างไร รัดเข็มขัดนิรภัยจำเป็นหรือไม่ คาดเข็มขัดนิรภัยตอนไหนดี เข็มขัดนิรภัยมีกี่รูปแบบ ค้นหาข้อมูลการใช้งานเข็มขัดนิรภัยรถยนต์เพิ่มเติมได้ที่ Autofast9.com
อ่านเพิ่มเติม