ผ้าเบรครถยนต์ เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สำคัญมาก หากผ้า เบรกหมดจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุตามมา อันตรายกับชีวิตและทรัพย์สินของทั้งผู้ขับขี่เองและผู้ร่วมถนนคันอื่น ๆ จึงควรเปลี่ยนผ้าเบรคเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน
ผ้าเบรครถยนต์ ควรเปลี่ยนตอนไหน ?
ปกติแล้ว ความหนาผ้าเบรค จะมีขนาดอยู่ที่ 10 มม. ส่วนอายุ ผ้า เบรค รถยนต์นั้น ควรเปลี่ยนทุก ๆ 3-5 เดือน หรือเมื่อถึง 30,000 – 50,000 กม. แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้งานหนัก ขึ้น-ลงเขา ขนของหนัก ๆ เป็นประจำ หรือเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ รวมถึงผู้ที่มีพฤติกรรมการขับรถที่ชอบตะบี้ตะบันเบรค ก็อาจทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าเบรคเร็วกว่ากำหนด
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าผ้าเบรคหมด ?
เมื่อผ้า เบรกหมด รถจะแสดงอาการ “ผิดปกติ” ออกมาทันที ให้ลองสังเกตตามอาการเหล่านี้
เบรคดังเอี๊ยดอ๊าด
เมื่อเหยียบเบรคแล้วเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด เป็นเสียงเหมือนโลหะเสียดสีกันมาจากล้อใดล้อหนึ่งของรถ นั่นเป็นเพราะผ้าเบรคหมดจนโลหะไปเสียดสีกับจานเบรค วิธีแก่ไขคือนำรถเข้าอู่เพื่อให้ช่างเปลี่ยนผ้าเบรคให้ใหม่
เบรคจม
คนที่ใช้รถบ่อย ๆ จะรู้ว่าระยะเบรคของตนอยู่ประมาณไหนก็มักจะออกแรงเบรคที่เท้าไปตามความเคยชิน หากวันใดวันหนึ่งเหยียบเบรคแล้วรู้สึกว่ามันจมมันลึกกว่าที่เคย เป็นไปได้ผ้าเบรคอาจจะหมดหรือเสื่อมสภาพลง ให้นำเข้าอู่เพื่อให้ช่างตรวจสอบและเปลี่ยนใหม่ให้เร็วที่สุด
เบรคดังจี๊ด ๆ
อีกอาการหนึ่งที่บ่งบอกว่าผ้าเบรคหมด ก็คือเวลาใช้เบรคแล้วเกิดเสียงดังจี๊ด ๆ นั่นเป็นเพราะจานเบรคไปเสียดสีกับดรัมเบรคเนื่องจากไม่มีผ้าเบรคมากั้นแล้วนั่นเอง เพื่อความปลอดภัยในระหว่างใช้งาน ควรนำรถไปให้ช่างตรวจสอบและเปลี่ยนผ้าเบรคให้ใหม่
ไฟเตือนเบรกมือ
ในระหว่างที่กำลังใช้งาน หากบนหน้าจอเรือไมล์มีไฟเตือนเบรกมือสีแดงแสดงขึ้นมา สันนิษฐานได้ว่าผ้าเบรคอาจจะสึกหรอหรือหมด จนทำให้น้ำมันเบรคไหลออกจากกระปุกจนลดลงต่ำกว่าขีด MIN นั่นเอง วิธีแก้ไขคือนำไปให้ช่างเปลี่ยนผ้าเบรคให้ใหม่พร้อมสาเหตุอีกที
ผ้าเบรครถยนต์เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญของระบบเบรคที่ควรดูแลรักษา หากผ้าเบรคหมดแล้วยังละเลย ใช้งานรถต่อไป อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาจนเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับขี่และสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ร่วมถนนคนอื่น ๆ ได้
อ่านเพิ่มเติม