วันที่ 20 สิงหาคม 2024 เอ็มจี ประเทศไทย ได้เปิดราคาจำหน่าย ALL NEW MG3 HYBRID+ ประจำปี 2024 มีรถให้เลือก 2 รุ่นย่อย ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 579,900 – 619,900 บาท รถในกลุ่ม B-Segment ราคานี้เป็นราคาพิเศษที่ลดลง 20,000 บาท มีจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น
ราคาทางการและรุ่นย่อยของ MG3 Hybrid+ 2025
สำหรับราคาทางการของ MG3 Hybrid+ 2025 ใหม่ นั้นมีการเผยออกมาแล้วว่า จะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น D ราคา 579,900 บาท พิเศษเปิดตัว 559,900 บาท
- ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น X ราคา 619,900 บาท พิเศษเปิดตัว 599,900 บาท
ข้อมูลทางเทคนิคและสเปกของ MG3 Hybrid+
เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.5 ลิตร กำลัง 102 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร รองรับน้ำมัน E20 สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเพียง 8 วินาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีความจุ 1.83 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ระบบ Hybrid มีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ สูง ปานกลาง และต่ำ เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 26.2 กม./ลิตร
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut มาพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam เบรกหน้าเป็นแบบดิสก์พร้อมช่องระบายความร้อน ส่วนเบรกหลังเป็นแบบดิสก์
ฟีเจอร์และอุปกรณ์เสริมใน MG3 Hybrid+
ส่วนในเรื่องของฟีเจอร์และอุปกรณ์เสริมนั้น ทาง MG ก็ได้เพิ่มเติมความล้ำสมัยเข้าไปในรถยนต์รุ่น MG3 Hybrid+ อย่างเต็มที่ โดยรุ่น X จะได้รับการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง อาทิ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB), ระบบควบคุมความเร็วแบบ ACC, ระบบเตือนการชน (FCW) และระบบอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ล้ำสมัยอย่างชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย และไฟหน้าปรับอัตโนมัติ
สีสันและการรับประกันของ MG3 Hybrid+
ในด้านสีสันของตัวถัง MG3 Hybrid+ 2025 ก็มีให้เลือกมากถึง 6 สี ได้แก่
- สีแดง (Scarlet Red)
- สีขาว (Arctic White)
- สีดำ (Black Knight)
- สีเทา (Metal Ash Grey)
- สีฟ้า (ST. Moritz Blue) เฉพาะรุ่น X
- สีเหลือง (Pastel Yellow) เฉพาะรุ่น X
ระบบความปลอดภัย MG3 Hybrid+
- ระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
- สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
- ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
- ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
เมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้ว MG3 Hybrid+ 2025 ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดของ MG ที่มาพร้อมกับสเปกที่น่าสนใจ และราคาที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหารถยนต์ไฮบริดในกลุ่มรถเล็กออพชั่นล้ำรุ่นใหม่ๆ เนื่องจากให้ทั้งความประหยัดน้ำมัน ความแรง และฟีเจอร์ที่ล้ำสมัย ในราคาที่จับต้องได้ ทำให้ MG3 Hybrid+ 2025 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฮบริดในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอน
ข่าวรถอัพเดทล่าสุดที่ autofast9.com