ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีมีส่วนเข้ามาช่วยเหลือในหลากหลายวงการ เช่นเดียวกับวงการยานยนต์ที่ในทุกวันนี้รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ได้ถูกปรับเปลี่ยนมาใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT กันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็อาจทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าแล้วเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT นี้มีความแตกต่างอย่างไรกับเกียร์อัตโนมัติปกติ วันนี้เราได้รวมคำถามเพื่อไขข้อสงสัยให้คุณได้ในบทความนี้
ทำความรู้จักเกียร์ CVT
สำหรับเกียร์ CVT มีชื่อเต็มว่า Continuosly Varible Transmission เป็นเกียร์อัตโนมัติรูปแบบหนึ่งที่มีอัตราทดแปรผันตามความเร็ว ซึ่งแนวคิดและไอเดียของเกียร์ CVT ถูกปรากฏขึ้นมาตั้งแต่ปี 1490 โดย Leonardo DaVinci พร้อมมีการจดสิทธิบัตรอย่างเป็นอย่างทางการในปี 1886 โดยผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์หรูยี่ห้อดัง หลังจากนั้นจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงขวบปีหลัง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กตลอดไปจนถึงรถยนต์ขนาดกลาง และก็ได้รับความนิยมมาจนถึงในทุกวันนี้
ในส่วนหลักการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ CVT ประกอบไปด้วยรอก หรือพูลเลย์ 2 ตัว คือ พูลเลย์ขับที่ต่อมาจากเครื่องยนต์ของตัวรถ และพูลเลย์ตามที่ต่อเข้ากับชุดเพลาขับ โดยมีสายพานโซ่ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกับโซ่ของจักรยานที่ปั่นทั่วไปแบบไม่มีเกียร์ เพียงแต่ว่าแกนของพูลเลย์ทั้ง 2 ตัวสามารถขยับถอยเข้าและออกได้ ในส่วนนี้เองจึงทำให้เป็นการลดหรือเพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายพานในแต่ละด้านสำหรับเปลี่ยนแปลงอัตราแทนชุดเฟืองเกียร์ในเกียร์อัตโนมัติแบบปกติได้
ข้อดีของเกียร์ CVT
สำหรับเกียร์ CVT ที่มีการใช้พูลเลย์ 2 ตัว จึงสามารถขยายศูนย์กลางของแกนซึ่งเชื่อมต่อโดยสายพานโซ่ในการปรับอัตราทดความเร็วแทนชุดเฟืองเกียร์ได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่มีสะดุด จึงทำให้ระบบการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น สูญเสียกำลังน้อยกว่า และประหยัดเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งชุดเกียร์ CVT ยังมีขนาดที่กะทัดรัดจึงทำให้ใช้พื้นที่ในการติดตั้งไม่เยอะ ส่งผลในเรื่องของการดีไซน์ออกแบบห้องโดยสารภายในได้กว้างขึ้น
ข้อเสียของเกียร์ CVT
หากพูดถึงข้อดีของเกียร์ CVT ในแง่มุมของการที่มีชิ้นส่วนขนาดกะทัดรัดและไม่กินพื้นที่ในการติดตั้ง แต่ในขณะเดียวกันข้อดีตรงนี้ก็แอบแฝงไปด้วยข้อเสียได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากการมีข้อจำกัดในการใช้งานที่ไม่ได้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อการขับขี่อย่างรุนแรงและใช้งานอย่างหนักหน่วง ดังนั้น ตลอดการขับขี่ควรระมัดระวังเป็นอย่างมากและควรขับด้วยความนุ่มนวล เพื่อเป็นการถนอมเกียร์และยืดอายุการใช้งานของ CVT ให้เพิ่มมากขึ้น
ปัญหาของเกียร์ CVT
สำหรับเกียร์ CVT นั้นถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อการขับขี่ใช้งานในแบบปกติทั่วไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผู้ขับขี่ใช้งานเต็มที่ให้เหมือนกับเกียร์ปกติก็อาจทำให้เกียร์ CVT มีการเสื่อมสภาพ โดยปัญหาของเกียร์ CVT ที่สามารถพบได้บ่อย มีดังนี้
- เกิดความร้อนสูง เนื่องจากเกียร์ CVT ใช้ชุดพูลเลย์ 2 ตัว จึงทำให้สายพานต้องคอยหมุนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีความจำเป็นสูงในการพึ่งพาระบบหล่อเย็นเพื่อระบายความร้อน โดยสัญญาณเมื่อเกิดความร้อนสูงคือกลิ่นไหม้ที่เกิดขึ้นภายในรถยนต์
- น้ำมันเกียร์รั่วซึม สำหรับเกียร์ CVT ก็เหมือนกับเกียร์ปกติทั่วไปที่ต้องอาศัยน้ำมันเกียร์ในการหล่อลื่น ควรตรวจเช็กการรั่วซึมหรือในเวลาที่เกียร์เกิดอาการกระตุก เร่งไม่ขึ้น ให้รีบนำไปตรวจเช็กในทันที
- สูญเสียความเร็ว รถเกียร์ CVT ที่มีปัญหาในเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะมีอาการกระตุกและสั่น และเมื่อเกิดความร้อนสูงในระบบก็จะทำให้รถสูญเสียกำลังอย่างชัดเจน
- มีความทนทานน้อย เกียร์ CVT ที่มีชิ้นส่วนน้อยจะมีความทนทานน้อยกว่าและมีอายุการใช้งานสั้นกว่า แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาให้เกียร์ CVT มีอายุการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ประเภทไหนก็ต่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป สำหรับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ก็มีข้อดีในเรื่องของการขับขี่ที่นุ่มนวล พร้อมมอบอัตราเร่งอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือการประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้ใช้งานควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจให้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้ก็จะช่วยยืดอายุและใช้งานเกียร์ CVT ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ดูเพิ่มเติม
