ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมานี้หลายครอบครัวคงต่างเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามดอยหรือภูเขาต่าง ๆ เพื่อสูดกลิ่นอายธรรมชาติและสัมผัสทะเลหมอกด้วยตาของตัวเองกันถ้วนหน้า ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวอุบัติเหตุเกิดขึ้นตลอดเกี่ยวกับเส้นทางการขึ้นเขา ส่วนหนึ่งแล้วมาจากผู้ขับขี่ที่ขาดประสบการณ์ในการขับรถ เกียร์ออโต้ขึ้นเขา หรือเกียร์แบบธรรมดา เพื่อขึ้นเขา จึงทำให้ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า ขึ้นเขาใช้เกียร์อะไร หรือ ลงเขาใช้เกียร์อะไร วันนี้เราได้รวบรวมทุกข้อสงสัยกับเทคนิคการขับรถขึ้นเขา-ลงเขาที่ถูกต้องควรทำอย่างไรบ้าง
อ่านเพิ่มเติม เกียร์ CVT vs เกียร์ออโต้ แตกต่างกันอย่างไร
การขับรถขึ้นเขา-ลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้อย่างถูกต้อง
สำหรับเส้นทางขึ้นและลงภูเขาบางสถานที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่านี่คือถนนปราบเซียน โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งหัดขับรถและผู้ที่ไม่คุ้นชินกับเส้นทางจึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเป็นอย่างดีเพื่อนำมาใช้กับสถานการณ์ขับรถขึ้นเขา แต่ถึงแม้ว่ารถเกียร์อัตโนมัติจะสามารถขับและควบคุมได้ง่ายในเส้นทางราบปกติ แต่เมื่อถึงทางชันขึ้นและลงเขาแล้วเป็นเรื่องที่ยากมากพอสมควรเลยทีเดียว
เทคนิคการขับรถขึ้นเขา
โดยหลักการขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาอย่างถูกวิธีคือการเริ่มต้นขับด้วยเกียร์ D หรือถ้าหากผู้ขับขี่พบว่าเส้นทางเริ่มต้นมีความสูงชันมากก็ให้เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์มาที่ D2 หรือ D1 ได้ในทันที ซึ่งเกียร์ D1 จะเหมาะสำหรับเส้นทางที่มีความลาดชันมาก ส่วนเกียร์ D2 จะมีลักษณะการทำงานที่คล้ายกับเกียร์ D1 เพียงแต่ว่าความชันอาจจะไม่สูงเท่า
ส่วนการเหยียบคันเร่งเกียร์ออโต้เวลาขับรถขึ้นเขาที่ถูกต้องคือการเหยียบเบา ๆ แล้วคอยสังเกตรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ที่ประมาณ 2,000-3,500 รอบ และควรใช้ความเร็วที่ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกเสมอ และที่สำคัญควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 30-50 เมตร
เทคนิคการขับรถลงเขา
ส่วนเทคนิคการขับรถลงเขาอย่างปลอดภัยจะไม่แตกต่างไปจากการขับรถขึ้นเขาสักเท่าไร เพราะว่าผู้ขับขี่จะต้องเริ่มต้นด้วยเกียร์ D เช่นเดียวกัน หลังจากนั้นปรับไปที่เกียร์ D2 และ D1 ขึ้นอยู่กับระดับความชันที่ผู้ขับขี่จะต้องพิจารณาด้วยตัวเอง และสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ทุกคนจะต้องจำไว้คือไม่ควรเข้าเกียร์ว่าง หรือเกียร์ N เพราะจะทำให้รถไหลลงเขาด้วยความเร็วสูงที่เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้
ในส่วนของการแตะเบรกเพื่อขับรถลงเขานั้นควรแตะเบรกเบา ๆ ให้เป็นจังหวะ ไม่ควรเหยียบเบรกค้างไว้เป็นเวลานานติดต่อกันเพราะอาจจะทำให้ผ้าเบรกไหม้จนส่งกลิ่นและควันออกไปแล้วอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ ควรเปลี่ยนตำแหน่งไปที่เกียร์ D2 หรือ D1 เพื่อให้รถดึงรอบเครื่องยนต์ที่จะทำให้รถช้าลงโดยที่ไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกตลอดเวลา และสิ่งสำคัญคือไม่ควรขับลงเขาด้วยความเร็ว ทางที่ดีควรขับรักษาความเร็วที่ 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข้อควรระวังในการขับรถลงเขา
- ห้ามเหยียบเบรกตลอดเวลา การขับรถลงเขาถือว่ามีความยากและมีความอันตรายมากกว่าการขับรถขึ้นเขา เพราะเมื่อรถอยู่บนทางลาดชันจะทำให้ตัวรถสามารถไหลลงด้วยความเร็วสูง และผู้คนส่วนใหญ่มักจะชอบเหยียบเบรกเอาไว้ตลอดเวลา ซึ่งการเหยียบเบรกมากเกินไปจะเบรกไหม้และเบรกแตกได้
- ใช้เกียร์ต่ำ การขับรถลงเขาที่ดีคือการใช้เกียร์ต่ำคือ เกียร์ D2 D1 หรือ L เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เกิดการทำ Engine Brake ซึ่งเป็นตัวช่วยในการลดความเร็วของรถได้เป็นอย่างดี
- ไม่เหยียบคลัตช์ หากขับรถลงเขาด้วยรถเกียร์ธรรมดา สิ่งสำคัญคือไม่ควรเหยียบคลัตช์ตอนขับลงเขา เพราะจะเปรียบเสมือนการเข้าเกียร์ว่างที่ส่งกำลังให้เพิ่มความแรงของรถและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม การขับรถขึ้นหรือลงเขาไม่ได้ยากอย่างที่คิด สิ่งสำคัญคือการหมั่นศึกษาหาข้อมูลเทคนิคเพิ่มเติม และนำมาปรับใช้ในการขับรถแต่ละครั้ง หรือการศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพราะในบางสถานที่อาจจะมีความสูงชันที่เสี่ยงต่ออันตรายได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงและเลือกใช้บริการรถของคนในพื้นที่จะเป็นทางออกที่ดีและปลอดภัยมากที่สุด
อ่านเพิ่มเติมอ่านเพิ่มเติม