สิ่งหนึ่งในระหว่างที่ผู้ขับขี่กำลังขับรถอยู่ควรสังเกตและไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ สัญลักษณ์หน้าปัดรถ บนแผงหน้ารถที่ขึ้นโชว์ เพราะถ้าหากว่า ไฟโชว์หน้าปัด ขึ้นเป็นสีแดงเมื่อไหร่นั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกได้ถึงความผิดปกติของรถและต้องควรรีบหาความผิดปกติในทันที วันนี้มาดูกันว่าไฟเตือนหน้ารถยนต์แบบไหนบ้างที่ผู้ขับขี่จะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ถ้าพร้อมแล้วตามไปหาคำตอบในบทความนี้กันเลย
ทำความรู้จัก ไฟเตือนหน้ารถยนต์
สำหรับ แผง หน้าปัด สัญลักษณ์ ไฟ เตือน หน้าปัด รถยนต์ ในทุกครั้งเวลาที่ผู้ขับขี่เริ่มต้นสตาร์ตรถยนต์ ไฟสัญลักษณ์ทั้งหมดจะขึ้นโชว์อย่างอัตโนมัติ เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าระบบการทำงานของรถกำลังเตรียมความพร้อม และหลังจากที่รถได้เคลื่อนออกตัวไปแล้วสัญลักษณ์ไฟเหล่านี้จะดับลง เหลือเอาไว้แค่ไฟบางส่วนที่ยังคงติดอยู่ เพราะว่าไฟเตือนที่ติดอยู่นี้บอกได้ว่าระบบในส่วนนั้นกำลังทำงานอยู่ แต่ถ้าหากในกรณีที่ผู้ขับขี่กำลังขับรถยนต์บนถนนไปอย่างปกติ แล้วพบว่ามีไฟเตือนบางอย่างขึ้นโชว์ นั่นหมายความว่ามีบางอย่างในตัวรถกำลังผิดปกติโดยที่ผู้ขับขี่จะต้องหาความผิดปกตินี้ให้โดยเร็วที่สุด โดยไฟเตือนหน้ารถยนต์แต่ละแบบสามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติได้ ดังนี้
ไฟเตือนสีแดงรูปเครื่องยนต์
เริ่มต้นกันที่ไฟเตือนรถยนต์แบบแรกคือไฟเตือนสีแดงรูปเครื่องยนต์ โดยส่วนใหญ่แล้วหากผู้ขับขี่ขับรถอยู่แล้วเกิดเห็นไฟเตือนนี้ขึ้นมาในระหว่างขับขี่นั้นแสดงว่าเครื่องยนต์อาจมีปัญหา รวมถึงผู้ขับขี่ยังต้องคอยสังเกตมาตรวัดอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น เรื่องของความร้อน ถ้าความร้อนปกติก็สามารถขับต่อไปได้โดยที่ไม่ควรใช้ความเร็วของรอบเครื่องสูง เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ โดยไฟสัญญาณรูปเครื่องยนต์นั้นก็สามารถบ่งบอกได้ถึงหลายสาเหตุ บางครั้งสายไฟเกิดขาดจนทำให้ ECU ไม่สามารถจับสัญญาณได้ ในกรณีนี้ก็จะส่งสัญญาณเตือนไปที่ไฟดังกล่าวได้ ทั้งนี้ หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นผู้ขับขี่ควรขับประคองเพื่อนำรถเข้าไปตรวจเช็กหาสาเหตุที่ศูนย์บริการทันที
ไฟเตือนสีแดงรูปเทอร์โมมิเตอร์
ต่อมาเป็นไฟสัญญาณเตือนสีแดงรูปเทอร์โมมิเตอร์ที่ถือว่ามีความสำคัญที่ส่งผลต่อความร้อนของเครื่องยนต์ได้โดยตรง หากมีไฟเตือนรูปนี้ขึ้นเมื่อไหร่แสดงว่าเครื่องยนต์มีการทำงานบกพร่อง โดยสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างหนัก สำหรับสาเหตุที่ทำให้รอบเครื่องยนต์มีความร้อนสูงสามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งเรื่องของหม้อน้ำรั่ว พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน หรือท่อยางน้ำรั่ว ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเกิดความร้อนขึ้นสูงเครื่องยนต์ก็จะค่อย ๆ เย็นลงและไฟดับลงไปเอง หากพบเจอไฟนี่เมื่อไหร่ควรลดความเร็วลดและเข้าจอดข้างทางทันทีเพื่อตรวจเช็กความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับรถของคุณ
ไฟเตือนสีแดงรูป ABS
สำหรับไฟเตือนสีแดงรูป ABS เมื่อผู้ขับขี่บิดกุญแจเมื่อไหร่ไฟนี้จะขึ้นเตือนมาทันทีเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม แต่เมื่อสตาร์ตรถติดเครื่องยนต์แล้วไฟนี้จะดับหายไป หรือในบางครั้งที่เวลาเบรกรถแบบกะทันหันก็อาจทำให้ไฟเตือน ABS ขึ้นโชว์เป็นจังหวะ ซึ่งเป็นการทำงานของระบบ ABS และเมื่อปล่อยเบรกไปแล้วไฟเตือนนั้นก็จะดับลงไปเอง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ขับรถไปตามปกติโดยที่ไม่ได้เหยียบเบรกแต่ไฟ ABS ขึ้นโชว์แสดงว่าอาจเกิดความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น การเปิดคู่มือรถเพื่อดูอาการเบื้องต้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้คลายความสงสัยนี้ลงได้ หรือในบางครั้งอาจมีโคลนหรือความชื้นที่ไปเกาะบริเวณเซนเซอร์จึงทำให้ค่าวัด ABS เกิดผิดเพี้ยนได้
ไฟเตือนสีแดงรูปเครื่องหมายตกใจ
ในส่วนของไฟเตือนสีแดงรูปเครื่องหมายตกใจมีความหมายว่าเบรกมือหรือระดับน้ำมันเบรกต่ำ โดยสามารถพบได้ในเวลาที่เลี้ยวรถแรง หรือในช่วงที่มีถนนลื่นก็จะบ่งบอกถึงระบบช่วยในการทรงตัวของรถ และเมื่อรถได้ขับผ่านเข้าสู่เส้นทางปกติไฟดังกล่าวก็จะดับลง แต่ถ้าไฟยังกะพริบอยู่นั้นแสดงว่าระบบอาจมีปัญหา ควรรีบนำรถเข้าไปเช็กศูนย์บริการเพื่อหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด
ไฟเตือนสีแดงรูปแบตเตอรี่
หากในช่วงเวลาที่เครื่องยนต์ของรถกำลังทำงานอยู่ ไฟเตือนสีแดงรูปแบตเตอรี่จะไม่แสดงโชว์ขึ้นมาให้เห็น แต่ถ้าหากว่าเครื่องยนต์กำลังทำงานแล้วพบว่าไฟดังกล่าวกะพริบหรือแสดงขึ้นมานั่นแสดงว่าระบบชาร์จไฟมีปัญหา ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากสายพานไดชาร์จหย่อนหรือขาด และไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ แบตเตอรี่หมดอายุ หรือแบตเตอรี่ไม่เก็บไฟ หากพบไฟสัญญาณเตือนนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ควรรีบหาที่ปลอดภัยเพื่อจอดรถ หรือหาร้านซ่อมรถใกล้บริเวณนั้นให้เร็วที่สุด
ไฟเตือนสีแดงรูปกาน้ำมันเครื่อง
สำหรับไฟเตือนสีแดงรูปกาน้ำมันเครื่องคืออาการของข้อเหวี่ยงไหม้และละลายจนเครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้ โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาน้ำมันเครื่องไม่สามารถหมุนเวียนได้ในระบบ รวมทั้งการรั่วซึม อ่างน้ำมันเครื่องทะลุ หรือซีลท้ายกรองน้ำมันเครื่องรั่ว โดยปัจจัยทั้งหมดนี้สามารถเกิดปัญหาขึ้นได้เสมอ หากพบไฟเตือนดังกล่าวขึ้นมาในระหว่างการขับขี่ ควรรีบหาที่ปลอดภัยและจอดรถในทันที
อย่างไรก็ตาม ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์นั้นยังมีอีกมากมายหลายแบบ โดยแต่ละแบบก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่ได้คัดมาในวันนี้คือไฟเตือนสีแดงที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ผู้ขับขี่ควรศึกษาและเรียนรู้เรื่องสัญญาณเตือนต่าง ๆ เพิ่มเติมได้จากสมุดคู่มือรถยนต์ของตัวเอง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัย
อ่านเพิ่มเติม