นับเป็นเรื่องราวที่ผู้ใช้งานรถยนต์มักจะพบเจอกันอยู่เรื่อยสำหรับรถไม่ค่อยได้ขับ กับปัญหาที่เจอบ่อยๆทั้งจากเครื่องยนต์มีการทำงานที่ผิดปกติ ระบบไฟฟ้าในรถเสีย แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ และช่วงล่างมีปัญหา เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่ทำให้ผู้ขับขี่หนักใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัญหารถจอดนาน จอดรถทิ้งไว้ส่งผลให้เครื่องยนต์ไม่ได้รับการสตาร์ทเครื่องยนต์และรันอินระบบต่างๆให้พร้อมสำหรับการขับขี่ส่งผลให้เมื่อผู้ขับขี่ต้องการกลับมาใช้งานรถอีกครั้งย่อมที่จะต้องทำการตรวจเช็คการทำงานของระบบต่างๆภายในรถยนต์อย่างละเอียดทั้งจากระบบไฟส่องสว่าง ระบบช่วงล่าง ระบบเบรก ระบบเกียร์ ระบบเครื่องยนต์ หม้อน้ำ แบตเตอรี่ ไดชาร์จ และไดสตาร์ท รวมไปถึงยางรถยนต์ที่มีการเสื่อมสภาพไปตามการใช้งานซึ่งผู้ขับขี่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการทำให้รถแปรเปลี่ยนสภาพกลับมาใช้งานได้ดังเดิมอีกครั้งหนึ่ง Autofast9.com นำวิธีการตรวจเช็ครถจอดนาน รถจอดทิ้งไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหารถไม่ได้ขับเบื้องต้น
ปัญหารถไม่ได้ขับ รถจอดนาน จอดรถทิ้งไว้มักจะส่งผลเสียต่อรถยนต์เป็นอย่างมาก เนื่องจากตามหลักการทำงานของเครื่องยนต์แล้วนั้นต้องใช้น้ำมันเพื่อสร้างพลังงานมาสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ทำงานตามปกติอยู่เสมอ เมื่อรถมีการขับเคลื่อนระบบการทำงานและฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆภายในรถจะมีการทำงานตามปกติตามที่ได้มีการตั้งค่าเอาไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อมีปัญหารถไม่ได้ขับทั้งจากการที่ผู้ขับขี่ซื้อรถใหม่ รถรออะไหล่ รถเสียเครื่องยนต์ไม่ทำงาน หรือ รถมีสภาพที่ไม่พร้อมสำหรับการใช้งานและมีความจำเป็นที่จะจอดรถทิ้งไว้จะต้องพบเจอเข้ากับปัญหาใดบ้าง
1.ยางเสื่อมสภาพ
ยางนับเป็นส่วนประกอบหลักของระบบขับเคลื่อนที่จะต้องพบเจอเข้ากับปัญหารถไม่ได้ขับแล้วทำให้ยางเสื่อมสภาพก่อนเป็นลำดับแรก เนื่องจากยางมีการระบุอายุการใช้งานเอาไว้ที่บริเวณแก้มยางซึ่งผู้ขับขี่จะต้องทำการเปลี่ยนยางตามระยะเวลาที่มีการระบุเอาไว้ หรือ เมื่อพบเห็นว่ายางมีการเสื่อมสภาพ อย่างไรก็ตามในกรณีที่รถจอดนานย่อมทำให้ยางรับน้ำหนักของตัวรถอยู่โดยตลอดแค่เพียงด้านเดียว คือ ด้านที่ติดกับพื้นซึ่งจะส่งผลให้ยางแฟบลงในที่สุด และหน้ายางจะสึกหรอเสื่อมสภาพลงไปตามระยะเวลาที่มีการจอดรถทิ้งไว้นั่นเอง ทั้งนี้เมื่อผู้ขับขี่มีการจอดรถทิ้งเอาไว้เป็นระยะเวลานาน ควรทำการติดเครื่องเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์และนำรถออกไปขับให้ยางมีการสัมผัสกับพื้นผิวถนนเพื่อช่วยให้หน้ายางมีการใช้งานในปริมาณที่เท่ากันทุกด้านและจะทำให้ยางเสื่อมสภาพช้าลงนั่นเอง
2.แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
แบตเตอรี่ถือเป็นระบบจัดเก็บไฟสำรองภายในเครื่องยนต์ เมื่อรถไม่ค่อยได้ขับย่อมทำให้ไม่เกิดการแลกเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าภายในแบตเตอรี่และแบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จไฟเหมือนดังเช่นรถที่มีการใช้งานอยู่ประจำ เมื่อผู้ขับขี่ต้องการใช้งานรถจอดนานย่อมพบปัญหาแบตเตอรี่หมดไฟ แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ แบตเตอรี่ไม่สามารถเก็บไฟได้ซึ่งส่งผลให้รถไม่สามารถสตาร์ทติดได้เพราะแบตเตอรี่หมด หรือ อาจจะต้องใช้ระยะเวลานานในการสตาร์ทรถยนต์ในแต่ละครั้ง ทั้งนี้การตรวจเช็คแบตเตอรี่เมื่อรถไม่ค่อยได้ขับควรสังเกตที่บริเวณด้านบนของแบตเตอรี่ซึ่งมีการแสดงสัญลักษณ์บอกถึงสภาพของแบตเตอรี่เอาไว้ หากพบเห็นสีเขียวแสดงว่าแบตเตอรี่ยังสามารถจัดเก็บไฟฟ้าได้ดีอยู่ แต่หากพบสีแดงแสดงว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไม่สามารถทำการจัดเก็บประจุไฟฟ้าได้ อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ขับขี่ต้องพบปัญหารถไม่ค่อยได้ขับ หรือ รถจอดนาน จอดรถทิ้งไว้ จะต้องติดเครื่องยนต์เอาไว้อยู่เสมออย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ไดชาร์จมีการชาร์จไฟเข้าไปเก็บภายในแบตเตอรี่และแบตเตอรี่ได้รับการชาร์จไฟอย่างเต็มที่จนอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์นั่นเอง
3.ไดชาร์จเสื่อม
ไดชาร์จเปรียบเสมือนเครื่องปั่นไฟภายในเครื่องยนต์เมื่อรถจอดนาน จอดรถทิ้งไว้ไม่ได้ทำการติดเครื่องยนต์ย่อมส่งผลให้ไดชาร์จไม่ได้มีการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ภายในไดชาร์จประกอบไปด้วยขดลวด ทุ่นแม่เหล็ก และแปลงถ่าน เมื่อได้รับการใช้งานในระยะเวลานานแปลงถ่านอาจมีการเสื่อมสภาพ ขดลวดไดนาโมขึ้นสนิมและขาดจนต้องพันขดลวดไดนาโมใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อพบปัญหาเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด หรือ ต้องใช้ระยะเวลานานในการสตาร์ทเครื่องยนต์ควรตรวจสอบไดชาร์จว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการใช้งานหรือไม่ และควรสตาร์ทเครื่องยนต์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
4.น้ำมันเชื้อเพลิงเสื่อมสภาพ
เมื่อรถจอดนาน รถไม่ค่อยได้ขับ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะต้องเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานลงไปด้วยนั้น ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อไม่ได้มีการใช้งานเป็นระยะเวลานานย่อมส่งผลให้น้ำมันมีการระเหยออกจากถังน้ำมันไปเรื่อยๆจนเสื่อมสภาพลงไปในที่สุด และจะทิ้งคราบตะกอนเอาไว้ภายในถังน้ำมันเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงคราบน้ำมันเข้าไปอุดตันที่หัวฉีดเพราะมีน้ำมันหลงเหลือเข้าไปติดค้างอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อผู้ขับขี่พบเข้าปัญหารถจอดนานจนน้ำมันเครื่องเสื่อมคุณภาพจำเป็นจะต้องทำการล้างถังน้ำมัน หรือ ล้างหัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ระบบเครื่องยนต์เพื่อขจัดคราบสนิมภายในถังน้ำมันรวมไปถึงคราบตะกอนน้ำมันภายในระบบจ่ายน้ำมันนั่นเอง
5.ปัญหาหนู หรือ สัตว์เข้าไปทำงานในห้องเครื่องยนต์
เมื่อรถจอดนาน จอดรถทิ้งไว้และไม่ได้มีการบำรุงรักษาสภาพรถโดยเฉพาะในส่วนของเครื่องยนต์ย่อมที่จะมีความเสี่ยงต่อการที่มดหนู หรือ สัตว์เลื้อยคลานต่างๆเข้าไปทำรังและสร้างความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์ได้โดยเฉพาะหนูที่ชอบเข้าไปทำรังและกัดสายไฟรวมไปถึงสายส่งน้ำมันต่างๆภายในระบบเครื่องยนต์จนทำให้เสียหายและรถสตาร์ทไม่ติดจนต้องนำไปซ่อมและเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงมดที่อาจเข้าไปทำรังและอาศัยอยู่ในกล่องควบคุม ECU รวมถึงช่องว่างต่างๆภายในระบบเครื่องยนต์จนเครื่องยนต์ไม่สามารถที่จะทำงานได้ตามสภาวะปกติ เพราะฉะนั้นหากจำเป็นจะต้องจอดรถทิ้งไว้ก็ควรเปิดฝากระโปรงห้องเครื่องยนต์เพื่อตรวจเช็คทำความสะอาดภายในห้องเครื่องยนต์อยู่เสมอเพื่อเป็นการป้องกันมด และหนูเข้ามาทำรัง หรือ อาจทำการสตาร์ทเครื่องยนต์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงเพื่อให้ระบบไฟและเครื่องยนต์ได้รันอินรวมไปถึงความร้อนจากการทำงานของเครื่องยนต์ย่อมที่จะไล่หนูและแมลงต่างๆออกไปได้
6.น้ำยาแอร์รั่วซึม
ปัญหารถจอดนาน จอดรถทิ้งไว้ย่อมส่งผลกระทบไปถึงการทำงานของระบบปรับอากาศภายในรถยนต์อีกด้วย โดยเฉพาะในส่วนของน้ำยาแอร์ เมื่อผู้ขับขี่จอดรถทิ้งไว้ ไม่ได้ใช้รถเป็นระยะเวลานาน น้ำยาแอร์ที่มีการเติมเข้าไปจะมีการเสื่อมสภาพและไม่สามารถที่จะทำความเย็นได้นั่นเอง ทั้งนี้การสังเกตอาการผิดปกติของระบบแอร์รถยนต์สามารถทำได้ด้วยตนเองผ่านการตรวจเช็คระดับน้ำยาแอร์ซึ่งอยู่บริเวณแผงระบายความร้อนด้านหน้ารถมองผ่านช่องตรวจสอบน้ำยาหากเห็นฟองอากาศเป็นจำนวนมากแสดงว่าน้ำยาแอร์ใกล้จะหมด
อีกทั้งเมื่อรถจอดนาน จอดรถทิ้งไว้ จะต้องตรวจสอบรอยรั่วของระบบแอร์ เนื่องจากในบางครั้งการที่แอร์ไม่เย็นอาจมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากการรอยรั่วบน ท่อน้ำยาแอร์เพราะหนูเข้าไปกัด หรือ สายท่อน้ำยาแอร์เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานจนเกิดรอยรั่ว หรือ แผ่นยางโอริงประกบระหว่างชุดท่อแอร์เกิดรอยรั่วเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็นแทบทั้งสิ้น เมื่อผู้ขับขี่สังเกตเห็นรอยคราบของน้ำยาแอร์บริเวณใกล้ๆท่อแอร์หากพบดังแสดงว่าน้ำยาแอร์มีการรั่วซึมควรนำไปตรวจเช็คยังร้านรับซ่อมแอร์รถยนต์ใกล้บ้าน
7.สีรถซีดจาง
รถไม่ค่อยได้ขับ รถจอดนาน หากถูกจอดทิ้งเอาไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง หรือ มีอุณหภูมิร้อนจัด ฝนสาด ย่อมส่งผลให้สีรถยนต์มีการซีดจางลงได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากแดดมีรังสียูวี หรือ แสงยูวีที่มีฤทธิ์ทำให้พื้นผิวภายนอกของรถยนต์ที่มีการทำสีตัวถังเอาไว้มีอาการซีดจางลงนั่นเอง อีกทั้งในกรณีที่จอดรถตากฝนเอาไว้เป็นระยะเวลานานก็ส่งผลให้สีรถยนต์ซีดจางลงได้เช่นกัน เนื่องจากในน้ำฝนมีค่าความเป็นกรดด่างอยู่เมื่อมาสัมผัสเข้ากับพื้นผิวโลหะ หรือ สีที่ทาเคลือบรถเอาไว้ย่อมที่จะทำให้พื้นผิวของรถมีการซีดจางลงเพราะกรด ด่างดังกล่าว อีกทั้งการที่รถต้องพบเจอเข้ากับความชื้นเป็นระยะเวลานานย่อมทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดสนิมอีกด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อรถจอดนานควรจะหาผ้าคลุมมาปิดคลุมรถและจอดอยู่ในสถานที่ปิดไม่มีแสงแดด และละอองฝนเข้าถึงนั่นเอง
สำหรับผู้ที่มีความสนใจเคล็ดลับการใช้รถ รถไม่ค่อยได้ขับ กับปัญหาที่ต้องเจอบ่อยๆ รถจอดนาน จอดรถทิ้งไว้ต้องพบเจอเข้ากับปัญหาอะไรบ้าง ปัญหารถไม่ได้ขับเครื่องยนต์เสียจะต้องแก้ไขอย่างไร ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Autofast9.com
ดูเพิ่มเติม