กรณีที่จอดรถตากฝนไว้ควรล้างรถให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อฝนตกก็จะพาฝุ่นควันที่อยู่บนอากาศตามลงมาด้วย คราบสกปรกจากมลพิษทางอากาศอาจทำให้สีรถหมองลงไม่สดใสอย่างที่เคย ยิ่งเมื่อขับรถลุยฝนก็อาจพบปัญหาคราบดินโคลนเกาะติดบริเวณส่วนต่าง ๆ ของรถ ทำให้เกิดคราบไคล ส่งผลต่อชั้นเคลือบผิวรถ ทำให้สีรถของคุณซีดเร็วขึ้น วิธีแก้ไขที่ได้ผลไว ก็คือการล้างรถนั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีวิธีในการดูแลรถตอนฝนตกวิธีอื่น ๆ ที่คุณสามารถทำได้แบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
ฝน ตก ล้าง รถทุกครั้ง
การล้าง รถ ฝน ตกจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของชั้นเคลือบผิวรถ ชะลอความหมองและซีดของสีรถ ทำให้รถของคุณดูใหม่อยู่เสมอแม้จะใช้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว เมื่อขับรถลุยฝนหรือจอดรถตากฝนจึงควรใช้น้ำสะอาดล้างคราบสกปรกออกทุกทั้ง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจกลายเป็นคราบฝังลึก
อย่าใช้ผ้าแห้งเช็ดรถ
การใช้ผ้าแห้งเช็ดรถโดยไม่ฉีดน้ำสะอาดชะล้างคราบสกปรกออกเสียก่อน จะทำให้คราบฝุ่นหรือโคลนที่เกาะติดรถเสียดสีกับผ้าแห้ง ๆ จนทำให้รถของคุณเกิดรอยขีดข่วนได้ ดังนั้น หากอยากทำความอาดจริง ๆ ควรใช้น้ำสะอาดฉีดหรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบเหล่านั้นออกก่อน
รถลุย/ตากฝน อย่านำไปตากแดด
ขับรถตากฝนมา อย่านำรถไปตากแดดเด็ดขาด หากยังไม่ได้ทำความสะอาดคราบสกปรกออกเสียก่อน เพราะจะทำให้คราบเหล่านั้นแห้งกรัง จนอาจกลายเป็นคราบฝังแน่นล้างออกยากจนส่งผลต่อชั้นเคลือบผิวรถ ทำให้สีหมองไวขึ้นนั่นเอง
เคลือบสีรถช่วยได้
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของชั้นเคลือบผิวรถ ทำให้รถมีความเงางาม มีสีสันสดใสเหมือนรถใหม่อยู่เสมอก็คือการเคลือบสีรถนั่นเอง คุณสามารถเคลือบสีรถได้ด้วยตัวเองโดยการขัดแวกซ์ ใช้น้ำยาพิเศษ หรือจะไปให้ช่างเคลือบแก้วให้ก็ได้ หากต้องการความสะดวกสบาย
การล้าง รถ ฝน ตก อาจทำให้ผู้ใช้รถบางคนรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่จุกจิกที่ต้องล้างรถบ่อย ๆ แต่หากปล่อยไว้จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะคราบสกปรกบางคราบ เมื่อสะสมมาก ๆ ก็จะกลายเป็นคราบที่ล้างไม่ออก และจะไปทำลายชั้นเคลือบผิวรถคุณ ส่งผลให้สีรถหมองและซีดเร็ว ต้องเสียเงินทำสีใหม่อีก ยุ่งยากกว่าเดิม
อ่านเพิ่มเติม