ฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่น เผยโฉมรถยนต์ Freed ทรงคอมแพ็กต์ รุ่นที่ 3 หลังจากที่รุ่นที่ 2 วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2016 โดยแบ่งออกเป็น 2 รุ่นหลัก ได้แก่ Freed Air ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ 6 และ 7 ที่นั่ง และ Freed Crosstar ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ 5 และ 6 ที่นั่ง
ตัวถังของ Honda Freed ใหม่ ยังคงเน้นขนาดกะทัดรัดเพื่อความคล่องตัวในการขับขี่ มาพร้อมเส้นสายที่ดูเรียบง่ายสะอาดตา พร้อมเอกลักษณ์ประตูคู่หลังเปิด-ปิดด้วยระบบสไลด์ไฟฟ้า และออกแบบไฟท้ายแนวตั้งที่เชื่อมติดกับกระจกบานหลัง สำหรับรุ่น Crosstar ได้รับการตกแต่งภายนอกให้ดูบึกบึนยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าที่ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน และซุ้มล้อสีดำ รวมถึงตกแต่งกันชนท้ายด้วยสีดำและแผงสีเงินให้เข้ากัน
ห้องโดยสารออกแบบให้กว้างขวาง โปร่ง โล่ง ผู้โดยสารทุกคน เบาะนั่งคู่หน้าออกแบบให้สามารถเดินผ่านได้สะดวก เบาะนั่งแถว 3 มีลักษณะบาง เพื่อความสะดวกในการพับเก็บเมื่อไม่ใช้งาน นอกจากนั้นยังมีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3
สำหรับรุ่น Freed Air ตกแต่งด้วยวัสดุที่นุ่มในบริเวณที่ต้องสัมผัสกับร่างกาย แผงคอนโซลออกแบบให้โค้งมน ซึ่งฮอนด้าระบุว่าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร ส่วน Freed Crosstar ตกแต่งด้วยสีโทนดำกากี สะท้อนความแข็งแรง มีแผงข้างอเนกประสงค์ที่บริเวณห้องเก็บสัมภาระท้ายรถเพื่อรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ด้านเครื่องยนต์ Honda Freed ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด eHEV เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมทั้งติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่เพิ่มฟังก์ชันเตือนจุดอับสายตา Blind spot information มาด้วย
